ปัญหาจากสภาพอากาศที่ร้อนมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน นอกจากริ้วรอย และให้ผิวเหี่ยวย่นก่อนวัยจากแสงแดด ยังสามารถทำให้เกิดผดร้อนขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทางการแพทย์มีชื่อเรียกว่า Miliaria ที่เกิดจากการอุดตันของท่อระบายเหงื่อ ทำให้เกิดผดผื่น ระคายเคืองผิว ใครที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย บอบบาง หรือมีปัญหาผดผื่นร้อนขึ้นตามร่างกาย ควรทำความรู้จักวิธีรักษาผดร้อนเบื้องต้นเพื่อทุเลา และรักษาอาการได้ด้วยตัวเอง
สาเหตุการเกิดผดร้อน
ถ้าจะทำการรักษาผดร้อน ก็ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ผดร้อน นั้นเกิดจากการอุดตันของท่อระบายเหงื่อ ทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเหงื่อได้อย่างเต็มที่ มีโอกาสเกิดขึ้นมากเป็นพิเศษในช่วงหน้าร้อน หรือหลังทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกง่าย เช่นหลังการออกกำลังกาย รวมไปจนถึงการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าในช่วงที่เหงื่อออกมากเป็นพิเศษก็ส่งผลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ผดร้อนในเด็กยังอาจเกิดจากการเซลล์ผิว และรูขุมขนยังไม่พัฒนาเต็มที่ ทำให้มีผิวบอบบางง่ายต่อการเกิดปัญหาผิวหนัง เช่น ผดร้อน ได้ง่ายด้วยเช่นกัน
ลักษณะอาการของ ผดร้อน
การรักษาผดร้อนนั้น เบื้องต้นควรทำความรู้จักกับผดร้อนทั้ง 4 ประเภทก่อน โดยแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความลึกจากการอุดตันของเหงื่อในชั้นผิว ดังนี้…
- Miliaria Crystallina ผดร้อนในระดับผิวที่ตื้นที่สุด มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสขนาดเล็ก สามารถแตกได้ง่ายจากการสัมผัส แกะเกา หรือเสียดสีกับเสื้อผ้า สามารถขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ในเด็กมักพบมากเป็นพิเศษที่ใบหน้า ไม่ระคายเคืองเท่าผดร้อนชนิดอื่น ๆ และผดสามารถแตกหายได้เอง
- Miliaria Rubra ผดร้อนในระดับผิวหนังชั้นกำพร้าที่พบได้บ่อยที่สุด หรือก็คือผดร้อนทั่วไปที่มักเจอในชีวิตประจำวัน มีลักษณะเป็นตุ่มแดง มีอาการคันระคายเคือง และแสบร้อน ไม่สบายผิวร่วมด้วย มักเกิดขึ้นมากในช่วงที่สภาพอากาศร้อนเป็นพิเศษ หรือหลังทำกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- Miliaria Pustulosa ผดร้อนที่เกิดจากการหมักหมมของเหงื่อ รวมไปถึงการปล่อยให้เกิดผดร้อนบ่อย และมากจนเกินไปจนอาจทำให้แบคทีเรียเข้ามาเปลี่ยนผดบนร่ายกายให้กลายเป็นตุ่มหนอง
- Miliaria Profunda ผดร้อนที่เกิดจากภาวะเรื้องรัง มักเกิดขึ้นในผู้ที่มีปัญหาผิวเกิดผดร้อนเป็นประจำจนนำไปสู่การอุดตันของท่อระบายเหงื่อในระดับที่ลึกที่สุด มีลักษณะผดเป็นตุ่มขาวขึ้นเป็นจำนวนมาก ระคายเคืองผิวรุนแรง
5 วิธีการดูแลรักษาผดร้อนด้วยตัวเอง
ก่อนที่จะเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาผดร้อน เบื้องต้นผดร้อนนั้นสามารถดูแลรักษาได้ด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ผดมีอาการรุนแรง หรือเกิดขึ้นเรื้อรัง สามารถปรับพฤติกรรม และลองใช้ผลิตภัณธ์ที่มีการแนะนำต่อไปนี้เพื่อรักษาผดร้อนได้
1.หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด
การหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัด เป็นวิธีการป้องกัน และรักษาผดร้อนด้วยตัวเองที่เห็นผลดีที่สุด นอกจากจะป้องกันผดร้อนได้ดีแล้ว ยังปกป้องผิวจากแสงแดดที่อาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง ริ้วรอย ฝ้าแดด จุดด่างดำ รวมไปถึงรอยเหี่ยวย่นได้อีกด้วย
2.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่คับแน่นจนเกิดไป นอกจากจะช่วยให้รู้สีกสบายตัว และคล่องตัวมากยิ่งขึ้นในช่วงที่อากาศร้อน ยังช่วยให้ผิวสามารถขับ หรือระบายเหงื่อระหว่างวันได้ดียิ่งขึ้น
3.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
การอาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน อาจส่งผลทำให้ผิวแห้งบอบบาง ขาดความชุ่มชื้นรุนแรง รวมไปถึงยังสามารถทำให้ท่อระบายเหงื่อในชั้นผิวอักเสบจนเกิดผดร้อนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรอาบน้ำอุณหภูมิปกติจะเป็นการดีที่สุด
4.ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรอ่อนโยน เน้นการลดผดผื่น
การทำความสะอาดผิวอย่างหมดจด เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน หรือท่อระบายเหงื่ออุดตัน เป็นวิธีการดูแลรักษา และป้องกันการเกิดผดร้อนที่มีประสิทธิภาพ โดยการเน้นใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ให้ผลลัพธ์ในการลดอาการระคายเคืองผิว ให้ความชุ่มชื้น และลดผดผื่นเพื่อรักษาผดร้อนอย่าง เซอร์มิกซ์ เจล ดีแพนทีนอล (ZERMIX Gel D-Panthenol) เจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ที่ผสาน D-Panthenol (ดีแพนทีนอล) หรือ Pro Vitamin B5 (โปรวิตามิน บี 5) ทำความสะอาดผิวหน้าพร้อมช่วยมอบความชุ่มชื้น เสริมเกราะปกป้องผิว ลดผดร้อน ผื่นแพ้ ระคายเคือง แห้ง คัน ได้เป็นอย่างดี เหมาะเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการรักษารอยแดง ผดผื่นเม็ดเล็ก ๆ บนผิว และอาการคันจากโรคผิวหนัง สามารถใช้ร่วมกับยารักษาโรคผิวหนังทั่วไปได้ แพทย์ผิวหนังแนะนำ
5.ดูแลผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยน
ผิวที่แห้งเสีย บอบบาง ง่ายต่อการเกิดภาวะต่อมเหงื่อหรือรูขุมขนอักเสบจนอาจทำให้ท่อระบายเหงื่อมีประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง ดูแลได้ด้วยมอยส์เจอไรเซอร์สูตรอ่อนโยนอย่าง เซอร์มิกซ์ ฟอร์เต้ ครีม (ZERMIX Forte Cream) ด้วย Advanced Ceramide Complex ผสานสารลดการอักเสบจากพืช Chaga Mushroom & Rhodiola Rosea ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง ลดผดร้อน ผื่นขึ้นผิว รวมไปถึงลดอาการระคายเคือง และอาการผิวอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาผดร้อน เสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว สามารถใช้คู่กับการรักษาโรคผิวหนังได้ แพทย์ผิวหนังนิยมสั่งจ่าย
การดูแลรักษาผดร้อน เริ่มต้นเพียงแค่ปรับพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาผิว รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผิวที่มีประสิทธิภาพตามข้อแนะนำทั้ง 5 นี้ เพียงเท่านี้ก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะช่วยให้ผิวของคุณปลอดภัย ห่างไกลผดร้อน