เกราะป้องกันผิวคือเสื้อเกราะที่คอยปกป้องไม่ให้สิ่งสกปรกหรือสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาในชั้นผิว นอกจากนี้ยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ภายในผิวอีกด้วย เราสามารถเสริมเกราะป้องกันผิวได้โดยการลดความซับซ้อนของขั้นตอนการดูแลผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เหมาะสม ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเซราไมด์หรือสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก การเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็น
เกราะป้องกันผิวคืออะไร?
เกราะป้องกันผิวคือชั้นป้องกันที่อยู่ด้านบนของผิวและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในขณะที่ป้องกันไม่ให้สารระคายเคืองเข้ามา เป็นชั้นผิวที่เซลล์เรียงตัวกันเหมือนกำแพงอิฐ จากหน้าที่ของเกราะป้องกันผิวทั้งหมดนั้น นักวิจัยต่างเห็นพ้องต้องกันว่ามันมีหน้าที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือช่วยปกป้องร่างกายจากปัจจัยกดดันภายนอก เช่น มลภาวะและรังสียูวี กักเก็บน้ำไว้เพื่อให้ร่างกายและผิวหนังชุ่มชื้น และขนส่งผ่านสารอาหารที่สำคัญไปยังเซลล์ผิว
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) สำคัญต่อผิวอย่างไร?
เกราะป้องกันผิวเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาสุขภาพผิวและสุขภาพโดยรวม ทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกันที่รักษาสมดุล ‘ภายใน-ภายนอก’ ควบคุมการสูญเสียน้ำ เกราะป้องกันผิวช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น แสงแดด รวมไปถึงแบคทีเรียและจุลชีพ เมื่อเกราะป้องกันผิวอ่อนแอหรือเสียหาย ก็อาจทำให้เกิดช่องโหว่ให้สิ่งแปลกปลอมสามารถเข้าสู่ผิว จนเกิดปัญหาผิวแห้ง แดง ผดผื่น และสารก่อภูมิแพ้ อาจต้องแก้ปัญหาด้วยการเสริมเกราะป้องกันผิว
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างไร?
การเสริมเกราะป้องกันผิว จะช่วยลดปัญหาผิวแพ้ง่าย ด้วยการปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมและแบคทีเรีย อีกทั้งการเสริมเกราะป้องกันผิวยังช่วยปรับสภาพผิวให้ผมดุล ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน และต่อมไขมันจะไม่ต้องผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวให้หน้ามัน การเสริมเกราะป้องกันผิวยังจะช่วยลดปัญหาสิว รวมไปถึงเปิดรับการบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย
การเสริมเกราะป้องกันผิวส่งผลดีต่อสภาพผิวอย่างไรบ้าง?
- การเสริมเกราะป้องกันผิวช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้โดยการเสริมสาร NMF หรือ Natural Moisturizing Factors ซึ่งเป็นสารที่ช่วยดึงน้ำจากอากาศและน้ำจากผิวชั้นลึกลงไปเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น อิ่มน้ำ สาร NMF ที่พบได้บ่อยคือ เซราไมด์ (Ceramide) และยูเรีย (Urea)
- การเสริมเกราะป้องกันผิว ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกสุด ช่วยลดปัญหาผิวเรื้อรังได้โดยการป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมและอันตรายจากภายนอก ไม่ให้เข้ามาซ้ำเติมปัญหาผิวที่มีอยู่ให้เรื้อรัง
- การเสริมเกราะป้องกันผิวช่วยให้ผิวแข็งแรง ไม่แพ้ง่าย ด้วยการเสริมสร้าง เซราไมด์ (Ceramide) และกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น และช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว นอกจากนี้การบำรุงผิวด้วยสารที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ยังช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้อีกด้วย
- การเสริมเกราะป้องกันผิวช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอได้โดยการป้องกันผิวจากรังสียูวีและมลภาวะต่าง ๆ ทำให้ผิวไม่ถูกแสงแดดเผาจนหมองคล้ำ
- การเสริมเกราะป้องกันผิวช่วยให้ผิวเรียบเนียน โดยการปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้นทำให้ผิวสุขภาพดี ไม่อ่อนแอ
ปัจจัยที่ทำให้เกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ไม่แข็งแรง
- เมื่อเราอายุมากขึ้น โครงสร้างผิวจะเปลี่ยนไปตามผิวหนังชั้นนอกและชั้นหนังแท้ที่บางลง การสูญเสียน้ำที่เพิ่มขึ้น และการแตกตัวของคอลลาเจนและอิลาสติน เกราะป้องกันผิวที่มีอายุมากจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าและซ่อมแซมได้ช้าลง
- ความชื้นต่ำและอุณหภูมิต่ำทำให้การทำงานโดยทั่วไปของเกราะป้องกันผิวลดลง สภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรวดเร็วก็สามารถส่งผลเสียต่อผิวได้เช่นกัน เมื่อผิวเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่อบอุ่นหรือร้อนและอากาศชื้น ซึ่งมักจะหมายถึงความรู้สึกมัน เยิ้ม และหนักหน้า เนื่องจากมีน้ำมันติดอยู่ที่พื้นผิวมากขึ้น
- การล้างหน้าบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำตามธรรมชาติ อาจทำให้ผิวระคายเคือง กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตซีบัมบนผิวมากขึ้น ทำให้เกิดสิวขึ้นได้ การล้างหน้าบ่อยเกินไปยังสามารถทำลายแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในไมโครไบโอมของผิวหนัง รวมทั้งขจัดน้ำมันที่รักษาสมดุลของผิวหน้าอีกด้วย
- การดื่มน้ำน้อยเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งและเป็นขุย ซึ่งอาจนำไปสู่ผิวแตกและลอก จนทำลายเกราะป้องกันผิวและทำให้ติดเชื้อและอักเสบได้ง่ายขึ้น
- การไม่ทาครีมกันแดดทำให้ผิวขาดการปกป้องจากแสงแดดและรังสียูวี ซึ่งจะทำให้เกราะป้องกันผิวเสียหาย และผิวจะไวต่อการภาวะผิวไหม้แดดมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเกราะป้องกันผิวได้
- ยารักษาสิวอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองจนทำลายเกราะป้องกันผิวได้ ยารักษาสิวบางตัวยังสามารถทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำลายเกราะป้องกันผิวเข้าไปอีก
- ความเครียดอาจทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเกราะป้องกันผิว ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้ การสูบบุหรี่ยังสามารถทำลายเกราะป้องกันผิว ด้วยลดการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปสู่ผิวหนังด้วย
เสริมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรงขึ้นได้ด้วย
ได้เห็นความสำคัญของเกราะป้องกันผิวกันไปบ้างแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเสริมเกราะป้องกันผิวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง แต่การดูแลเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากนัก หากได้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม อย่าง ZERMIX Cream ครีมเซราไมด์เข้มข้น สำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ ซึ่งเป็นครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 72 ชม. และช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะปราศจากแอลกอฮอล์และพาราเบน มี Advance Ceramide Technology (ACT) ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเยอรมนี เป็นสูตรที่พัฒนาตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง โดยใส่ส่วนผสมอิงตามโครงสร้างผิวจริง และ เซอร์มิกซ์ ฟอร์เต้ ครีม (ZERMIX FORTE CREAM) ซึ่งเป็นครีมบำรุงผิวหน้า เวชสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย เพื่อผิวบอบบางโดยเฉพาะ ที่พัฒนาร่วมกับแพทย์ผิวหนัง ผ่านการแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังมาตั้งแต่ปี 2009 มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิว ปลอบประโลม ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ทำให้ผิวสุขภาพดีแข็งแรงในระยะยาว ผ่านการทดสอบบนผิวที่บอบบางระคายเคืองง่าย ภายใต้การควบคุมดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง ปราศจากน้ำหอมและไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบนและสารกันเสีย
