โรคสะเก็ด หนึ่งในปัญหาโรคผิวหนังที่สร้างความทรมานทั้งกาย และใจให้กับผู้ที่ต้องเผชิญโรคดังกล่าว เนื่องจากโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ สิ่งที่ทำได้คือทุเลาอาการ ไปจนถึงการยับยั้งอาการไม่ให้กำเริบขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นในบทความนี้ ZERMIX จะมาแชร์สาเหตุของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน ลักษณะของอาการ ปัจจัยกระตุ้น และการเลือกครีมรักษาโรคผิวหนังที่จะช่วยส่งเสริมให้อาการจากโรคสะเก็ดเงินของคุณดีขึ้น
สาเหตุของการเกิดโรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่มีการพบว่าผิวสะเก็ดเงินจะมีการแบ่งเซลล์บนชั้นผิวที่เร็วเกินไป จนเกิดเป็นสะเก็ดผิวหนังทับซ้อน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ภูมิคุ้มกันเกิดอาการผิดปกติ รวมไปถึงพันธุกรรม และปัจจัยภายนอกที่อาจส่งผล อาทิ ความเครียด สภาพอากาศ สารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และสุขภาพโดยรวม
*ผิวที่ขาดเซราไมด์ 1, 3, และ 6 จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะทำให้ผิวเกิดโรคสะเก็ดเงิน
โรคสะเก็ดเงินมีลักษณะอย่างไร
ลักษณะอาการของโรคสะเก็ดเงินมีค่อนข้างหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่ที่พบนั้น จะมีลักษณะผิวหนังแห้งรุนแรงลอกขุยและเป็นแผ่น ผิวหนังอักเสบมีผดผื่นรอยแดงนูนขึ้นตามร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ให้ความรู้เจ็บ แสบ และคันรุนแรงบริเวณที่มีอาการของโรคสะเก็ดเงิน ในส่วนของเล็บมือ และเล็บเท้าที่มีอาการของโรคสะเก็ดเงิน จะมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลใต้เล็บ ผิวใต้เล็บจะหนาขึ้นก่อนที่จะเกิดอาการอักเสบ และมีอาการเล็บเปื่อยยุ่ยตามมา
ผดผื่นจากโรคสะเก็ดเงินที่เกิดขึ้นตามร่างกาย และหนังศรีษะ จะมีลักษณะเป็นวงแดงเป็นปื้นเห็นได้ชัดเจน มีขุยคล้ายสะเก็ดแผลขึ้นกลางวงผื่นแดง ปื้นผดผื่นจากสะเก็ดเงินสามารถขยาย หรือลุกลามตั้งแต่ขนาดเท่าเหรียญสิบและใหญ่ได้เทียบเท่ากับขนาดหนึ่งฝ่ามือ
การรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยตัวเอง
การรักษาโรคสะเก็ดเงินนั้นในระดับที่ไม่รุนแรงสามารถดูแลรักษาได้ด้วยตัวเอง
- หายาทารักษาโรคผิวหนังเพื่อลดอาการลอก อักเสบ และตกสะเก็ดของผิวรวมไปถึงมองหาครีมรักษาโรคผิวหนังที่เน้นประสิทธิภาพของความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคือง และใช้คู่กับยารักษาโรคผิวหนังได้เป็นหลัก พร้อมหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการของโรคสะเก็ดเงินกำเริบ เช่น
1. หลีกเลี่ยง และควบคุมปัจจัยกระตุ้นอาการ
อาหาร – ควรเลือกทานอาหารที่หลากหลาย ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน และวิตามินที่ดีในการฟื้นฟูภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น
ความเครียด – ภาวะเครียดคือหนึ่งในปัจจัยที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน เป็นหนึ่งในสาเหตุของการกระตุ้นให้อาการของโรคสะเก็ดเงินกำเริบได้
การนอนหลับ – หลีกเลี่ยงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เพราะเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้โรคสะเก็ดเงินกำเริบ เพราะการนอนน้อยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ
การออกกำลังกาย – สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ภูมิต้านทาน และฮอร์โมนดีขึ้น ช่วงให้อาการโรคสะเก็ดเงินไม่กำเริบขึ้นมา
แอลกอฮอล์ & บุหรี่ – นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ แล้ว แอลกอฮอล์ และบุหรี่ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคสะเก็ดเงินได้ด้วยเช่นกัน
การอักเสบของร่างกาย – หลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายอักเสบในขณะที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน การแกะ หรือเกาผิวหนังจนถลอกหรืออักเสบ อาจทำให้โรคลุกลามได้
2. การใช้ยาควรปรึกษาแพทย์
ยารักษาโรคผิวหนังโดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นยาที่ออกฤทธิ์รุนแรง ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ทั้งวิธีการใช้ยา ระยะเวลา และปริมาณอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงควรใช้ครีมรักษาโรคผิวหนังที่มีสรรพคุณบำรุงผิว และใช้ควบคู่กับยาไปรักษาเพื่อลดอาการอักเสบและระคายเคือง
3. การใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยน ทั้งโฟมล้างหน้า และมอยส์เจอไรเซอร์
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว การทำความสะอาดผิวในช่วงที่เป็นสะเก็ดเงินควรเลือกเป็นสูตรอ่อนโยน เน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเวชสำอางไม่มีสารที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ หรือเสี่ยงทำให้ผิวอักเสบ ที่สำคัญควรได้รับคำแนะนำโดยแพทย์ผิวหนังให้สามารถใช้ร่วมกับยารักษาโรคขณะรักษาโรคสะเก็ดเงินได้
ครีมมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว มอยส์เจอไรเซอร์คือหนึ่งในตัวช่วยสำหรับการรักษาอาการจากโรคสะเก็ดเงิน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในช่วงที่ผิวแห้งเป็นพิเศษเมื่อเป็นสะเก็ดเงิน พร้อมทั้งยังช่วยให้ผิวแข็งแรง
ครีมที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ เซราไมด์คือสารแพทย์ผิวหนังแนะนำให้เป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญของสกินแคร์ และครีมดูแลผิว เพราะมีส่วนช่วยในการเสริมประสิทธิภาพการรักษาโรคผิวหนังหลายโรค เสริมเกราะป้องกันของผิว ลดอาการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ ผดผื่น และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
ครีมบำรุงผิว ครีมรักษาโรคผิวหนังคือหนึ่งในสกินแคร์จำเป็นที่ควรมีติดบ้านไว้ใช้สำหรับการดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงิน เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพของการรักษาดีขึ้น และลดอาการระคายเคืองจากยา เช่นผลิตภัณฑ์มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวจาก ZERMIX
ZERMIX Forte Cream
เซอร์มิกซ์ ฟอร์เต้ ครีม หนึ่งในครีมรักษาโรคผิวหนังจากเซอร์มิกซ์ที่สามารถใช้คู่กับยารักษาได้ ผลิตภัณฑ์ครีมรักษาโรคผิวหนังที่แนะนำและสั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง เหมาะสำหรับใช้รักษาอาการคันระคายเคืองผิวจากภาวะผิวหนังอักเสบ หรือโรคสะเก็ดเงิน รักษารอยแดง และผดผื่นจากโรคผิวหนัง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้นได้ใน 7 วัน เพียงแค่ทาบาง ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ด้วยประสิทธิภาพจากสารสำคัญอย่าง
Advanced Ceramide Complex เซอราไมด์ถึง 3 ชนิด (Ceramide 1, 3, 6) ผสานกรดไขมันและคอเลสเตอรอล (Fatty Acids & Cholesterol) เสมือนน้ำมันจากผิวตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบในชั้นผิวหนัง ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวยุติอาการผิวแห้งลอกและเสริมเกราะปกป้องผิวชั้นนอกที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้น
เห็ดชาก้า (Chaga Mushroom) ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยลดเลือนรอยแดง ผื่นแพ้ อาการคันและการอักเสบของผิว
โรฮ์ดิโอลา โรซี (Rhodiola Rosea) มีคุณสมบัติลดการอักเสบระคายเคือง รักษาผิวแพ้ง่าย ให้ความชุ่มชื้นและชะลออายุของผิว
ZERMIX Cream
เซอร์มิกซ์ ครีม ครีมรักษาโรคผิวหนังที่มีทั้งเซราไมด์ และมอยส์เจอไรเซอร์ช่วยฟื้นฟู และบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรง และชุ่มชื้น รักษาอาการผิวแห้งรุนแรงจากโรคสะเก็ดเงิน เพียงทาบาง ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ประสิทธิภาพล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง และเป็น ผลิตภัณฑ์ครีมรักษาโรคผิวหนังที่แนะนำและสั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนัง ครีมรักษาโรคผิวหนังเซอร์มิกซ์ครีม มีสารสำคัญอย่าง
Advanced Ceramide Technology (ACT) มีเซอราไมด์ถึง 3 ชนิด (Ceramide 1, 3, 6) ผสานกรดไขมันและคอเลสเตอรอล (Fatty Acids & Cholesterol) มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ลดการสูญเสียน้ำให้กับผิว ลดอาการผิวแห้งลอกเป็นขุย เป็นแผ่น และเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว
Cupuacu Butter ช่วยลดอาการแห้ง คัน พร้อมบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นอย่างยาวนาน
Aloe Vera หรือ ว่านหางจระเข้ ช่วยลดการอักเสบระคายเคืองผิว และให้ความชุ่มชื้น
โรคสะเก็ดเงินนั้น หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ได้รับยาจากแพทย์ หลีกเลี่ยงปัจจัยการกระตุ้น และเลือกใช้ครีมรักษาโรคผิวหนังที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ และเซราไมด์ที่สั่งจ่าย หรือแนะนำโดยแพทย์ไปพร้อม ๆ กัน จะช่วยกดอาการไม่ให้กำเริบได้อย่างยาวนาน
