โรคผิวหนังอักเสบ คือภาวะอักเสบของผิวที่เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายนอกอย่างเช่นสภาพแวดล้อม และปัจจัยภายใน อย่างพันธุกรรม การที่ผิวหนังไวต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ทำให้ผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ จนเกิดอาการคัน เป็นผื่นแดง หรือมีตุ่มใส ๆ บริเวณผิวหนัง สร้างความทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ วันนี้เราเลยอยากจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีรักษา “โรคผิวหนังอักเสบ” ในแต่ละประเภท รวมไปถึงการเลือกสกินแคร์และครีมบำรุงสำหรับผิวหนังอักเสบได้อย่างเหมาะสม
รู้ลึก…เราผิวหนังอักเสบประเภทไหนกันแน่
โรคผิวหนังอักเสบที่จริงแล้วสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท แต่ที่พบบ่อยจะมีทั้งหมด 5 ประเภท โดยมีสาเหตุ อาการ และปัจจัยกระตุ้น ที่แตกต่างกัน
ผื่นระคายสัมผัส (Irritant Contact Dermatitis)
ผื่นระคายสัมผัสมีสาเหตุมาจากการที่ผิวหนังสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองโดยตรง จนทำลายผิวชั้นนอกที่คอยปกป้องผิว ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวม คัน ผิวแห้ง ตกสะเก็ดเป็นแผล หรือรู้สึกว่าผิวหนังหนาขึ้น
ตัวอย่างสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
- น้ำยาทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก แชมพู สบู่
- เครื่องสำอาง น้ำหอม ยาทาเล็บ ยาย้อมผม
- ฝุ่นละอองจากขนสัตว์ ขี้เลื่อย
- พืชมีพิษบางชนิด
- แพ้ยาทาบางชนิด
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย
โดยปกติแล้ววิธีรักษาผิวหนังอักเสบ ที่เกิดผื่นระคายสัมผัส ไม่ได้มีความยุ่งยาก เนื่องจากผื่นเหล่านี้จะค่อย ๆ ยุบหายไปเอง หลังจากที่หยุดการสัมผัสจากสารที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง แต่หากว่าอาการไม่ดีขึ้น จะต้องไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาต่อไป
ผื่นแพ้สัมผัส (Allergic Contact Dermatitis)
อาการของโรคผิวหนังอักเสบ ประเภทผื่นแพ้สัมผัส จะมีอาการบวม คัน ผิวแห้ง แสบผิว ลมพิษ และรู้สึกว่าผิวหนังหนาขึ้น แต่จะแตกต่างกับผื่นระคายสัมผัสตรงที่สารที่ทำให้เกิดอาการจะเป็นสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ทำให้ร่างกายปล่อยสารฮิสตามีนจนเกิดอาการอักเสบ แพ้ และคัน โดยมากจะมีอาการหลังจากสัมผัสสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือน
ตัวอย่างสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- เครื่องประดับที่มีส่วนผสมของโลหะ อย่างนิกเกิล ทอง
- ถุงมือยาง ผลิตภัณฑ์อื่นจากยางลาเท็กซ์
- น้ำหอม และเครื่องสำอาง
- สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและระงับกลิ่นกาย
- พิษจากพืชบางชนิด
- ละอองเกสรดอกไม้ ละอองยาฆ่าแมลง
- น้ำยาฟอกหนัง ผ้าจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้สารฟอร์มาลดีไฮด์ในการฆ่าเชื้อโรค
การสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ครั้งหนึ่งแล้ว หากสัมผัสอีกรอบก็จะทำให้เกิดการกระตุ้นได้ง่าย หากว่าใครไม่แน่ใจว่าตนเองแพ้อะไร การไปทดสอบภูมิแพ้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาผิวหนังอักเสบที่จะช่วยให้เรารู้ถึงต้นเหตุของการเกิดอาการแพ้เหล่านี้ได้
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบที่มักมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ที่มีครอบครัวหรือญาติที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อากาศ หอบหืด หรือมีอาการคันตา โดยอาการที่พบบ่อยจะเป็นอาการผื่นแดงตามผิวหนัง และคันบริเวณข้อพับ คอ และส่วนอื่น ๆ
แม้ว่าจะเป็นอาการโรคผิวหนังอักเสบประเภทผื่นภูมิแพ้ผิวหนังส่วนใหญ่จะมาจากพันธุกรรม แต่เมื่อถูกกระตุ้นโดยปัจจัยแวดล้อม ก็อาจจะทำให้อาการกำเริบมากขึ้น
ตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบ
- สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้
- อากาศหนาว อากาศร้อน อาหารแห้ง
- สบู่ ครีม โลชั่น ที่มีสารเคมีผสม ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
- เสื้อผ้าที่ทำมาจากขนสัตว์
- เชื้อโรคต่าง ๆ
- อาหารที่มีส่วนผสมของนม ไข่ ถั่วเหลือง
- ความเครียด
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบที่มักมีสาเหตุมาจากพันธุกรรม ที่มีครอบครัวหรือญาติที่เป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อากาศ หอบหืด หรือมีอาการคันตา โดยอาการที่พบบ่อยจะเป็นอาการผื่นแดงตามผิวหนัง และคันบริเวณข้อพับ คอ และส่วนอื่น ๆ
แม้ว่าจะเป็นอาการโรคผิวหนังอักเสบประเภทผื่นภูมิแพ้ผิวหนังส่วนใหญ่จะมาจากพันธุกรรม แต่เมื่อถูกกระตุ้นโดยปัจจัยแวดล้อม ก็อาจจะทำให้อาการกำเริบมากขึ้น
ตัวอย่างปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบ
- สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้
- อากาศหนาว อากาศร้อน อาหารแห้ง
- สบู่ ครีม โลชั่น ที่มีสารเคมีผสม ทำให้เกิดอาการระคายเคือง
- เสื้อผ้าที่ทำมาจากขนสัตว์
- เชื้อโรคต่าง ๆ
- อาหารที่มีส่วนผสมของนม ไข่ ถั่วเหลือง
- ความเครียด
โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis)
เซ็บเดิร์ม หรือโรคผื่นแพ้ต่อมไขมัน เป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดขึ้นในบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่จำนวนมาก ตัวอย่างเช่น หนังศีรษะ ใบหน้าบริเวณจมูก หลังหู หัวคิ้ว ข้างจมูก แต่ก็มีพบอยู่ในบริเวณอื่นบ้าง แต่น้อยกว่าบริเวณที่กล่าวไปข้างต้น
อาการของเซ็บเดิร์มที่พบได้บ่อยคือ ผิวหนังเป็นผื่นแดง คัน และเป็นขุยสีเหลือง ถ้าพบที่หนังศีรษะจะกลายเป็นรังแค สาเหตุของอาการจะมีทั้งปัจจัยภายนอกอย่างแสงแดด อากาศ และปัจจัยภายในคือ ระบบภูมิต้านทานอ่อนแอ
ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ เช่น
- เครียด อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ภูมิต้านทานอ่อนลง
- เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไม่สมดุล
- ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- แสงแดด
เซ็บเดิร์มเป็นโรคเรื้อรังที่กลับมาเป็นซ้ำ ๆ ได้เมื่อเกิดปัจจัยกระตุ้น วิธีรักษาเบื้องต้นของโรคผิวหนังอักเสบประเภทเซ็บเดิร์ม แพทย์จะแนะนำให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวหนังอักเสบและสกินแคร์ผิวแพ้ง่ายพิเศษเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวกลับมาแข็งแรง
ผื่นผิวแห้ง (Xerotic Eczema)
ผื่นผิวแห้งเป็นอาการของโรคผิวหนังอักเสบที่ทำให้ผิวแห้ง แตก คัน และเป็นขุย บางรายผิวหนังแห้งจนมีน้ำเหลืองไหลออกมา พบบ่อยในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อาบน้ำอุ่นเป็นประจำ และขาดการบำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดผื่นผิวแห้ง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวผลิตไขมันน้อยลง จนผิวดูแห้งและขาดน้ำ
- การอาบน้ำอุ่น หรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเป็นประจำ
ผู้ที่เป็นผื่นผิวแห้งแนะนำให้ใช้ครีมเซราไมด์เข้มข้นที่จะช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นของผิว และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
วิธีรักษาโรคผิวหนังอักเสบ
วิธีการดูแลรักษาอาการของโรคผิวหนังอักเสบสามารถแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ การดูแลด้วยตนเอง การพบแพทย์เพื่อทำการรักษา และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลผิวอักเสบเบื้องต้น
- การดูแลด้วยตนเอง วิธีรักษาและดูแลโรคผิวหนังอักเสบในเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารระคายเคือง อย่างสารเคมี น้ำหอม สารที่ทำให้แพ้ พร้อมทั้งการดูแลสุขภาพร่างกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
สำหรับคนที่มีอาการคัน หรือเป็นผื่น ห้ามไปเกาหรือถูอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้อาการยิ่งรุนแรงมากขึ้น ให้ใส่เสื้อที่ทำจากผ้าฝ้าย และหากคันมาก ๆ ให้ใช้การประคบเย็นจะช่วยให้อาการบรรเทาลงไปได้ส่วนหนึ่ง - รักษาโดยแพทย์ผิวหนัง หากว่าอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยและรักษา โดยแพทย์จะให้ยาทาชนิดครีมหรือขี้ผึ้ง ยาต้านอักเสบ ยาแก้แพ้ ยาปฏิชีวนะ และยาอื่น ๆ เพื่อใช้บรรเทาอาการ
- การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลผิวอักเสบเบื้องต้น โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือเวชสำอาง ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ ซึ่งเหมาะกับผิวอักเสบและแพ้ง่าย
การป้องกันโรคผิวหนังอักเสบ
นอกจากการดูแลไม่ให้ผิวถูกกระตุ้นด้วยสารระคายเคือง และสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้แล้ว การดูแลผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคผิวหนังอักเสบได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำในอุณหภูมิปกติแทนการอาบน้ำอุ่น ไม่แช่น้ำ หรืออาบน้ำนานจนเกินไป รวมถึงการใช้น้ำมันผสมในอ่างอาบน้ำก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้
หลังจากอาบน้ำ หรือล้างหน้าแล้ว ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้น ดังนั้น เราจะต้องบำรุงผิวด้วยครีม เพื่อบำรุงไม่ให้ผิวแห้ง โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้จะต้องมีความอ่อนโยนกับผิว เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
Zermix เวชสำอางของคนที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ แพ้ง่าย
สำหรับใครที่กำลังมองหาเวชสำอางหรือสกินแคร์ผิวแพ้ง่ายพิเศษ หรือผิวหนังอักเสบ เราขอแนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลและเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
- ZERMIX Cleansing Gel D-Panthenol เจลล้างหน้าสำหรับผิวหนังอักเสบ ตัวช่วยดูแลอาการของโรคผิวหนังอักเสบและแพ้ง่าย ที่มีสารให้ความชุ่มชื้นสูงถึง 4 ชนิด (4 Hydrating Booster) พร้อมดีแพนทีนอลช่วยลดการอักเสบและเสริมเกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติ ใช้ล้างหน้าเป็นประจำวันละ 1-2 ครั้ง ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ลดอาการผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นแดงได้
- ZERMIX Forte Cream ครีมเซราไมด์เข้มข้น ตัวช่วยดูแลผื่นภูมิแพ้ผิวหนังและโรคผิวหนังอักเสบ ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้ ช่วยลดอาการแดง คัน และฟื้นบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรง มีคุณสมบัติลดการอักเสบของผิวเทียบสเตียรอยด์ 1% โดยปราศจากสเตียรอยด์ 100%
- ZERMIX Cream ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ สูตร Advanced Ceramide Technology (ACT) ที่มีเซอราไมด์เข้มข้นซ่อมแซมลึกถึงเซลล์ผิวด้านใน ล็อกความชุ่มชื้นยาวนานถึง 72 ชม. ใช้บำรุงผิวหน้า คืนความชุ่มชื้นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง แดง ขุย คัน
สำหรับใครที่มีปัญหาผิวอักเสบ ผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ เวชสำอางที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ สนใจสั่งซื้อได้ที่ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก